ค้นหาบล็อกนี้

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

(สร้างขึ้นระหว่าง ศตวรรษที่ 17 - ศตวรรษที่ 20 และเป็นรายชื่อที่ประกาศตั้งแต่วันที่ 07/07/07 ถึงปัจจุบัน)

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 (07/07/07 ตามการนับเวลาของ คริสตศักราช) องค์กร New7Wonders (N7W) ได้ประกาศรายชื่อ เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการร่วมโหวตของคนทั่วโลกผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์


อุโมงค์รถไฟใต้ทะเล ประเทศอังกฤษ-ฝรั่งเศส

หอคอยซีเอ็นทาวเวอร์(CN Tower)
สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกขณะนี้ คือ หอคอยซีเอ็นทาวเวอร์ ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา มีความสูง 1,821 ฟุต สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1975 รูปทรงสัณฐาน เหมือนเข็ม เย็บกระสอบเสียบแห้วตรงปลาย ตรงที่เหมือนแห้วนี้เป็นชั้นชมวิวชั้นล่าง มีภัตตาคาร ร้านอาหาร (อยู่คฃตรงความสูง 1,136 ฟุต) หากขึ้นไปถึงความสูง 1,465 ฟุต ตรงนี้จะมีอีก กระเปาะเล็กๆ เรียกว่า สกายพอด (Sky Pod) ตรงนี้ชมวิวได้ไกลโพ้นถึง 100 กิโลเมตร ในวันที่อากาศดีๆ สามารถมองเห็นน้ำตกไนแอการาได้ใกล้ๆ ส่วนลิฟต์ที่พาขึ้นไปชมนั้นวิ่ง ด้วยความเร็วจากพื้นถึงชั้นชมวิว(กรเปาะะเห้ว)แค่ 58 วินาทีเท่านั้น

เขื่อนอิไตปู(Itaipu)
คำว่าอิไตปู แปลว่า"เสียงเพลงจากก้อนหิน"มาจากภาษากวารานิ(Guarani)ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม เขื่อนอิไตปู เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ซึ่งในอดีตจัดได้ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อนที่เขื่อนสามหุบเขาของจีนจะแล้วเสร็จ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1984 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1988
เขื่อนอิไตปูกั้นแม่น้ำปารานาบริเวณเขตแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปรากวัย จึงทำให้เขื่อนนี้เป็นทั้งผนังกันน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองประเทศอีกด้วย เขื่อนอิไตปูเป็นเขื่อนคอนกรีตชนิดเขื่อนแบบกลวง มีขนาดความสูง 180 เมตร มีความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการสร้างกว่า 28 ล้านตัน ซึ่งสามารถสร้างสนามฟุตบอลได้ 210 สนาม และใช้เหล็กมากขนาดสร้างหอไอเฟลได้ 380 หอเลยทีเดียว เมื่อสร้างเสร็จด้านเหนือเขื่อนจึงเกิดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่กว่า 1,550 ตารางกิโลเมตร ระยะทางยาวลึกขึ้นไปทางเหนือเขื่อนอีกกว่า 160 กิโลเมตร มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 18 เครื่อง มีกำลังการผลิต 12,600 เมกะวัตต์ จึงสามารถจ่ายไฟให้กับประเทศปรากวัยได้ทั้งประเทศรวมทั้งเมืองใหญ่ของบราซิลทั้งนครเซาเปาโล และนครริโอ เดอ จาเนโร ได้อย่างสบาย แต่ภายหลังได้มีโครงการเพิ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็น 20 เครื่อง ภายในปี 2550 และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 14,000 เมกะวัตต์

ตึกเอ็มไพร์สเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นตึกสูงระฟ้าอยู่บนเกาะแมนฮัตตัน หน้านครนิวยอร์คของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมิใช่เป็นตึกที่สูงที่สุดของโลกในปัจจุบันก็ตาม แต่เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังความน่ามหัศจรรย์อย่างหนึ่งสำหรับสิ่งก่อสร้างในปัจจุบัน ตึกเอ็มไพร์เสตทเป็นตึกสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 1,248 ฟุต แบ่งออกเป็น 102 ชั้น มีหน้าต่าง 6,500 บาน มีเนื้อที่ 2,158,000 ตารางฟุต ตามปกติจุคนได้ 25,000 คน แต่ถ้าจำเป็นจะจุคนได้ถึง 80,000 คน มีลิฟท์ขึ้นลง 63 ที่ อิฐที่ใช้ก่อสร้าง 10,000,000 ก้อน จากชั้นล่างถึงชั้นที่ 86 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีที่ไม่เป็นสนิมคิดเป็นน้ำหนัก 730 ตัน บนยอดสุดมีโดมสูงขึ้นไปอีก 200 ฟุต ใช้เป็นที่ทำงานของบริษัทใหญ่ๆกว่า 600 บริษัท รับประกันความถาวรคงทนได้นานถึง 6,000 ปี
ตึกนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1929 เสร็จเรียบร้อยเมื่อ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1937 สิ้นเวลาเพียง 19 เดือนเท่านั้น เมื่อช่างขึ้นไปติดตั้งเดินสายโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้วสิ้นสายโทรศัพท์ยาวถึง 17,000,000 ฟุต สายไฟฟ้าภายในอาคารสิ้นไปยาวเท่าไหร่ไม่รู้ได้ เฉพาะค่าก่อสร้างในสมัยนั้นเป็นเงิน 5,000,000 ปอนด์ หรือ 2,000,000,000 บาท ในสมัยเงินไทยยังมีค่า ถ้าเป็นปัจจุบันต้องนับเป็นพันล้านบาท

เดลต้า เวิร์ค ประเทศเนเธอร์แลนด์

สะพานโกลเดนเกตท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
สะพานโกลเดนเกต เป็นสะพานแขวนที่มีความยาวมากที่สุดในโลก ทอดข้ามอ่าวทางตอนเหนือ ของเมืองซานฟรานซิสโก สร้างเป็นแบบโครงแขวน ตัวสะพานแขวนประกอบด้วยหอคอยเหล็กสองข้างข้างละ 215 เมตร ( 746 ฟุต) ใช้ ลวดเคเบิลที่โยงทอดเป็นตัวดึงน้ำหนักสะพานมีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 36 นิ้ว ข้างละ 2 เส้น รวม 4 เส้น ยาว 107,000 ไมล์ และยังมีเส้นลวดเล็ก ยึดสายโยงอีกรวม 27,572 เส้น มีช่วงกลางระหว่างตอม่อยาว 1.26 กิโลเมตร ส่วนริม 2 ฟาก ยาวข้างละ 34 เมตร รวมยาวทั้งหมดประมาณ 7 กิโลเมตร มีส่วนกว้าง 27 เมตร เป็นสะพานแบบสะพานแขวนขนาดใหญ่และยาวมากที่สุดสะพานแรกในยุคนั้น จนเป็นที่น่ามหัศจรรย์ของผู้ผ่านไปมาและพบเห็นยิ่งนัก และเป็นแบบอย่างในการออกแบบสร้างสะพานแขวนแบบใหญ่และยาวมากขึ้นไปอีกในโอกาสต่อๆมา

คลองปานามา ทวีปอเมริกาใต้
คลองปานามา ทวีปอเมริกาใต้ คลองปานามา (Panama Canal) เป็นคลองที่มนุษย์สร้างบริเวณคอคอดปานามาในประเทศปานามา เพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาที่ต้องไปอ้อมเคป ฮอร์น (Cape Horn) แหลมทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ในการเดินทางระหว่างทั้งสองมหาสมุทร คลองปานามามีความยาว 82 กิโลเมตร หรือ 51 ไมล์ มีเรือใช้เส้นทางนี้ประมาณ 12,000 ลำต่อปี ใช้เวลาแล่นเรือข้ามคลองประมาณ 9 ชั่วโมง
คลองปานามาเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1914 และมอบคืนให้กับประเทศปานามาวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1999